Wednesday, 22 March 2023

เปิดใจเด็กนักเรียน ร้องไห้ไหว้นายทุน ปิดทางเข้าออกโรงเรียนบนเกาะหลีเป๊ะ

รายการโหนกระแส วันนี้ เปิดใจเด็กนักเรียน ร้องไห้ไหว้ นายทุน ปิดทางเข้าออกโรงเรียน บนเกาะหลีเป๊ะ ตัวแทนชาวบ้านจี้สอบ ได้เอกสารสิทธิ์โดยชอบหรือไม่ เปิดโปง ซ้ำรุกที่อุทยาน

รายการโหนกระแสวันที่ 15 ธ.ค. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้สัมภาษณ์ ป้าดุก พิชญา แก้วขาว ตัวแทนมูลนิธิชุมชนไท ซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้าน , เรณู – ละออง ชาวบ้านที่ถูกนายทุนแจ้งเหตุบุกรุก ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่กฎหมาย สภาทนายความ และ พันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ รวมทั้ง ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ประเด็นมันยังไงกันแน่ เห็นเด็กนักเรียนมาร้องห่มร้องไห้?

ป้าดุก : แท้จริงรากของปัญหา เรา คิดว่า ออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ ครอบเส้นทางสาธารณะ ที่ชาวบ้านเดินกันมา 4 รุ่นคน ไม่น่าต่ำกว่า 100 ปี อยู่กัน 1,500 คนที่อยู่ที่นั่น กลุ่มคนเหล่านี้ เขาประกาศว่า จะอยู่กับสยาม ทำให้เกาะหลีเป๊ะ ซึ่งอยู่ห่างไกลจากฝั่งไป 60 กว่ากิโล ตกเป็นของไทย ทำให้พวกเรา ได้ทะเลละแวกนั้นมาทั้งหมด นี่คือที่มาที่ไป

นายทุนเปิดใจ

แล้วไปเกี่ยวอะไรกับที่ดินแปลงนี้ ทำไม นายทุน ไปจองซื้อที่ตรงนี้ แล้วมากั้นรั้ว เกิดอะไรขึ้น?

ป้าดุก : คือ ชาวเลเขาอยู่กันแบบพออยู่พอกิน ไม่ได้ถือเอกสารสิทธิ์ ไม่ได้แบ่งเขตอะไรกัน บ้านส่วนใหญ่ ก็อยู่ติดทะเล เขาจะต้องออกทะเล มีเรือ พอมารุ่นที่มีเรื่องเอกสารสิทธิ์ การท่องเที่ยวเข้ามาด้วย ทำให้เขาถูกกดดัน ไม่เรียกว่า ข่มขู่ แต่ว่าถูกกดดัน พูดว่า ที่ดินที่ตรงนี้ เป็นของฉัน โดยที่ชาวบ้านไม่รู้

ที่ตรงจุดนี้ มันคืออะไร ที่เกิดข้อพิพาท มันคืออะไร?

ป้าดุก : ตรงจุดนี้ เป็นจุดที่มีโรงเรียนอยู่ มีทางเข้าออกทะเล

แสดงว่า คนมาซื้อที่ และ ไล่ที่ชาวบ้าน มาซื้อ น.ส.3 เป็นหนึ่งในคนที่รุกที่อุทยานด้วย?

ป้าดุก : ใช่ค่ะ

เขาฟ้องเราว่าอะไร?
เรณู : บุกรุกค่ะ ให้รื้อถอน กลายเป็นจำเลยแล้ว

เขาให้ออก เพราะ เขาซื้อมา แล้วแท้จริงๆ เป็นของใคร?

เรณู : ตาของพวกเรา บอกว่า เป็นของตา ตาไม่รู้หนังสือ ตา ก็ไม่ทราบว่า จะไปออกเอกสารสิทธิ์ตรงไหน คุณตาไม่เคยพูด คือชาวบ้านคนไหนมาอาศัย ก็ขอตา ตาก็ให้อยู่เป็นกลุ่มที่นั่นหมด

ฝั่งเจ้าของที่ปัจจุบัน ที่บอกว่า ไปซื้อที่ดินแปลงนี้มา เขาซื้อจากใคร?

ป้าดุก : ซื้อจากนางดารา ลูกสาวโต๊ะคีรี หนึ่งของชาวเลรุ่นแรกที่เข้ามาอยู่ ออกเอกสารสิทธิ์ไปครั้งแรก 51 ไร่ สค. 1 พอมารังวัดครั้งที่สอง เป็น 81 ไร่ พอมาเป็น น.ส.3 ปัจจุบันนี้ 140 ไร่

คนมาซื้อแปลงนี้เป็นนักธุรกิจ ที่รุกอุทยานด้วย?

ป้าดุก : คนนี้แหละค่ะ เขาไปสร้างรีสอร์ตรุกอุทยานค่ะ

พี่ต้องการที่จะให้เอาที่แปลงนี้คืนมาเป็นสาธารณะประโยชน์ หรือยังไง?

ป้าดุก : ให้เปิดทางก่อน

นายทุนเปิดใจเด็กนักเรียน ร้องไห้

มุม นายทุน จะยังไง?

พ.ต.ต.วรณัน : หนึ่ง พวกเรา ดูก่อนว่า ขั้นตอนได้มา ซึ่งเอกสารสิทธิ์ชอบมั้ย ถ้าเกิดไม่ชอบ ขั้นตอนการต่อไป ก็ไม่ชอบ สิทธิ์ก็ไม่ได้ ประเด็น คือ จะเป็นความผิด ฐานบุกรุกหรือไม่ เดี๋ยวไปดูข้อสรุปตามทีหลัง แต่ประเด็นเรื่องการเปิดทาง ที่ทนายเสนอแนะ ก็ถูกทางแล้ว ไปใช้สิทธิ์ทางศาล

ทนายแก้ว : ถ้าพวกเรา จะไปรื้อยกแผงเหล็กออก ตรงนี้ เรา ทำไม่ได้ การที่จะเอาออกได้ พวกเรา ก็ต้องใช้สิทธิ์ทางศาล ร้องเข้าไป ให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองระหว่างพิจารณาคดีก่อน ด้วยเหตุดังกล่าว พี่ต้องรีบดำเนินการร้องต่อศาล จะเอาไปรื้อถอนเองจะกลายเป็นข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ ตรงนี้ พี่ต้องระวังครับผม

ฝั่งพี่ได้รับความเดือดร้อนยังไง?

เรณู : ในเวลานี้ คือ มีคดีฟ้องร้องอยู่ ในขณะนี้ ยังเข้าออกบ้านได้ แต่ก็กลัว

ป้าดุก : เขาก็ติดป้ายว่า ห้ามใครเดินเข้ามาในที่ดินของเขา พี่น้องเขาก็เลยกลัว

นักเรียนอยู่ในสาย เดือดร้อนยังไง?

นักเรียน : เข้าออกโรงเรียนยาก เพราะว่า มีรั้วกั้นครับผม

ขึ้นเรืออ้อมหน้าหาดได้ จริงมั้ย?

นักเรียน : จริงครับผม แต่ใช้เวลานาน มันไกลด้วยครับผม ไม่โอเค ถ้านั่งเรือไป

สิ่งที่เด็กๆทำกัน ทำกันอย่างไร?

เด็กนักเรียน : ปีนรั้วนะครับ เขาก็ยังกั้นอยู่ เด็กนักเรียน ก็จำเป็นต้องใช้วิธีนั้น ซึ่งมันเสี่ยงกับการที่จะเกิดอันตรายมากกับชีวิตมากเลยครับผม

หากปีนรั้วอย่างนี้ ทางเขาก็สามารถแจ้งบุกรุกได้เหมือนกัน?

ทนายความแก้ว : ถูกครับผม กรณีนี้ ความผิดฐานบุกรุกชัดเจน เพราะเหตุว่า เขาก็มีสิทธิ์ป้องกันที่เขาอยู่แล้ว แต่การที่น้องๆปีน แม้จะอ้างเหตุว่า พวกเรา จะเข้าไปเรียนหนังสือ แต่ว่าเราจะต้องไปว่ากัน ว่าตัวนายทุนมีสิทธิ์ปิดมั้ย ต้องรอให้ทนายความไปดำเนินการฟ้อง เพื่อเพิกถอนก่อน

ประเด็นการฟ้องร้องเข้าใจ แต่ปัญหาเร่งด่วน ที่จำเป็นต้องแก้ คือ จุดที่เด็กนักเรียน จำเป็นต้องไปเรียน จะจัดการกับปัญหานี้ ได้อย่างไร สมมุตินายทุนเขาซื้อที่ดินแปลงนี้ถูกต้องหมดเลย เขาอ้างเป็นที่ดินของเขา จะแก้ไขยังไง?

ทนายความแก้ว : ก็ต้อง ดูว่า ไอ้ที่ตรงนี้ เป็นทางสาธารณะที่คุณมีสิทธิ์ซื้อหรือเปล่าก่อน ถ้าหากมีทางสาธารณะเป็นส่วนหนึ่งในโฉนด ที่คุณจะซื้อเอกสารสิทธิ์ คุณก็ซื้อไม่ได้ เพราะ กฎหมายระบุชัดเจนว่า ทางสาธารณะประโยช์จากแผ่นดิน มันจะทำการซื้อขายจับจองกันไม่ได้ ต้องพิสูจน์กันว่า พื้นที่ตรงนี้ เป็นทางสาธารณะอยู่

วันนี้ไปเรียนกันอย่างไร?

นักเรียน : ปีนรั้วข้ามมาครับ ทั้ง 300 คนนะครับ

ไปขอนายทุนหรือยัง?

เด็กนักเรียน : เคยขอร้อง แต่ว่าเขาไม่สนใจพวกหนูเลย

ทางโรงเรียนว่าไง?

เด็กนักเรียน : ทางโรงเรียนไม่ได้ว่าอะไร แต่ว่าพวกผมเป็นคนจะต้องเข้าโรงเรียน มันก็ยาก

นายทุนเปิดใจเด็กนักเรียน ร้องไห้ปิดทางเข้าออกโรงเรียน

จากที่เห็นมากับตา ประเมินยังไง?

อนุชา : พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมถึง เด็กนักเรียน พ่อแม่ ผู้ปกครอง วิถีชีวิตเขา เขาอยู่กันมาเป็น 100 ปี ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย จนถึงปัจจุบันนี้ เขาก็ใช้ทางนี้ เป็นเส้นทางหลัก แล้วย้ายถิ่นฐานกันโดยตลอด เพราะว่า ถูกความเจริญ เข้ามาครอบงำ ในวิถีชีวิต เป็นอะไรที่น่าเห็นใจมาก

ประเด็นที่จะคุยกับนายทุน มีอะไรบ้าง?

อนุชา : จากการถาม ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ทางเส้นนี้ เขาใช้เป็นทางหลักในชีวิตประจำวันมาช้านานแล้ว โรงเรียน ก็ใช้ทางนี้ ไม่ใช่เด็กนักเรียน เรียนอย่างเดียว แม้แต่เขาเป็นชาวเล เขาก็ใช้วิถีชีวิต สำหรับเพื่อการทำมาหากินกับเส้นทางนี้ด้วย

ไม่ใช่เฉพาะเด็กนักเรียนอย่างเดียว ก็ไม่มีทางเส้นอื่นให้เขาได้ออกมาใช้ชีวิตตามปกติ ผมมีความรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมาก ที่ประเด็นนี้ต้องไปสู่กระบวนการยุติธรรม อย่างเต็มรูปแบบ

อีกกรณี ชาวบ้านก็กลุ้มอกกลุ้มใจเช่นเดียวกัน มองอีกมุมนึง คือ มีเด็กๆเด็กนักเรียน 300 คน รวมถึง ชาวบ้านแถวนั้น เคยไปขอนายทุนท่านนั้น บอกว่า ขอเถอะอย่าปิดเลย แต่ว่าเขาก็ไม่คุยด้วย เขาติดเลยว่า บุกรุกมีโทษโดยชอบด้วยกฎหมายต่างๆนานา ประเด็นแบบนี้เหมือนเขาไม่ได้เกรงกลัวอะไรหรือเปล่า?

อนุชา : ไม่เป็นไรครับผม เดี๋ยวต้องดำเนินงานตามกฎหมาย อย่างเต็มที่ เมื่อกี้ได้ยินชื่อท่านเลขาฯ ธนกฤต ประเด็นนี้ต้องให้กระทรวงยุติธรรมเป็นเจ้าภาพ สำหรับการบริหารจัดการ ในส่วนกระบวนการยุติธรรม และ เรียกร้องสิทธิ์แทนพี่น้อง ที่เขาขาดที่พึ่ง
ผมคิดว่า ประเด็นนี้ ไม่เหลือบ่ากว่าแรงกระทรวงยุติธรรม ที่จะมาดำเนินการ หากเจ้าของ หรือ คนได้รับสิทธิ์ ถ้าเกิดเขาคิดว่า เขาดำเนินงานถูกต้องหรือไม่อย่างไร เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน

อยากบอกอะไรกับท่าน?

ป้าดุก : เรื่องเร่งด่วนค่ะ เพราะว่า ในเวลานี้ เด็กก็ไม่ได้ตั้งใจเรียน พอเด็กไปนั่งเรียน เขาก็มาเชื่อมเหล็กที่จะปิด พี่น้องก็เก็บเต็นท์มา 4 รอบแล้วค่ะ พอพี่น้องไม่มาเฝ้า เขาก็เอาคนงานมาก่อสร้าง เป็นอย่างนี้เมื่อวันที่ 26 จนกระทั่งวันนี้ พี่น้องคุยกับปลัดเรา คุยกันรู้เรื่องว่า ถอยนะ วิ่งกันออกมา จำเป็นต้องมาเฝ้าไม่ให้เขาเชื่อมเหล็กเสร็จ ศาลจะนัดหมายสืบสวนอาทิตย์หน้า

อนุชา : ผมลงมาพูดคุยกับพี่น้อง ทั้งยังผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ ภาค รวมถึง บิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทางดีเอสไอก็จะได้เฝ้าระวัง เพื่อให้มีการพูดคุยหลายมิติ ให้เกิดความชอบธรรม ไม่ต้องเป็นห่วงครับผม ผมได้คุยกับพี่น้อง ในส่วนแกนนำ พี่น้องต่างๆ ออกจะชัดเจน

สำหรับในการเดินทางระยะยาว เพื่อลูกหลาน เพื่อให้เขามีชีวิต และก็ ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย ไม่ใช่แค่ ณ เวลานี้แค่นั้น คุยกันในส่วนระยะยาวที่เราจะดูแล