Wednesday, 22 March 2023

รีวิวภาพยนตร์ Men of Plastic (2022) ตามสองหนุ่มอัพกูจองไปส่องศัลยกรรมพลาสติกอันลือลั่น

ภาพยนตร์ เรื่องแต่งที่สมจริงสมจัง เล่าอิงคอมเมดี้แต่ซ่อนเร้นซีเรียส

ว่าด้วยธุรกิจศัลยกรรมเสริมความงามอันเลื่องชื่อของประเทศเกาหลี

กับเรื่องราวของสองชายหนุ่มผู้หิวเงินกระหายความสำเร็จ โดย ‘มาดงซอก’ แล้วก็ ‘จองคยองโฮ‘

ภาพยนตร์ Men of Plastic

Men of Plastic เป็น ภาพยนตร์ คอมเมดี้

บนท้องเรื่องของธุรกิจศัลยกรรมเสริมความงามแห่งย่านอัพกูจอง เขตคังนัม ที่มีชื่อที่สุดของประเทศ
โดยมีตัวชูโรงของเรื่องเป็น ‘มาดงซอก‘ ที่เพิ่งจะสร้างปรากฏการณ์หนังทำเงินสูงสุดไปเมื่อต้นปีจากเรื่อง The Roundup

ว่ากันแล้ว ผลตอบรับของ Men of Plastic นั้นบางทีอาจไม่ปังมากนักในเกาหลี คาดว่าคงเป็นด้วยเหตุว่าประเด็นเรื่องราวธุรกิจที่นำมาเล่า เป็นสิ่งที่รู้ ๆ กันมานานนมอยู่ในชีวิตคนประเทศเกาหลี ด้วยเรื่องความสวยความงามนั้นเป็นเรื่องของทุกคนในประเทศ เรียกได้ว่าสิ่งนี้แทบกลายเป็นของขวัญเบื้องต้น
ที่เมื่อเรียนจบที่บิดามารดาต้องมอบให้ลูก เพื่อฯลฯทุนเสริมความเชื่อมั่นในการก้าวสู่การเป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน

นอกเหนือจากนั้นตัวหนังก็บางทีอาจขาดข้อความสำคัญกินใจ กับมุกตลกขบขันที่ไม่กระโดดแหวกกระทั่งโดนใจ แตกต่างจากหนังคอมเมดี้ที่ประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมาอย่าง Extreme Job (2019) หรือ 6/45 (2022) ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าหนังตลกนี่เป็นงานยากสุดละ
เพราะขำของเราอาจไม่ขำของคนอื่น ๆ ขำยังไงให้สากล เข้าถึงได้แม้จะต่างบริบทต่างวัฒนธรรมกัน

แต่แต่ทว่าสำหรับผู้ชมนอกเกาหลี ผู้เขียนมองเห็นมุมที่น่าสนใจไม่น้อย อันดับแรกเลยเป็น การเจาะลึกธุรกิจศัลยกรรมเสริมความงาม ซึ่งเป็นใจความสำคัญที่คนไทยเดี๋ยวนี้ติดตามรวมทั้งให้ความสนใจค่อนข้างมาก

Men of Plastic 2022

หนังตั้งต้นเรื่องที่ปี 2007 ในยุคต้น ๆ ที่เพิ่งจะคิดใช้มีดหมอมาเนรมิตความงาม

ต้องบอกก่อนว่าเนื้อหาของหนังเป็นเรื่องแต่งขึ้น แต่มั่นใจว่าอิงความเป็นจริงมาด้วยแหละ จึงเหมือนสะท้อนปัญหาหลากหลาย ได้แก่ หมอเก่ง ๆ ถูกใช้ให้เป็นเพียงหมอเงา หรือก็คือรับจ๊อบลงมือผ่าแทนด้วยค่าตอบแทนถูก ๆ โดยคนเจ็บไม่รู้จักและถูกเรียกเก็บเงินแพง ๆ ส่วนผู้ครอบครองเงินทุนที่กล้าลุยกับธุรกิจใหม่ก็มักเป็นผู้มีเบื้องหลังการหาเงินที่ไม่สะอาดนัก ถึงกล้าพร้อมเสี่ยงได้ รวมทั้งเมื่อลงทุนแล้วก็ย่อมมีอุบายในการฉกฉวยเงิน อาทิเช่น การใช้เวชภัณฑ์เถื่อนเพื่อลดต้นทุนโดยไม่สนใจเรื่องศีลธรรม หรือการเน้นปั่นยอดขายสูง ๆ
โดยไม่ได้เอาความต้องการที่ตามที่เป็นจริงของลูกค้าเป็นตัวตั้ง ขาดจรรยาบรรณความเป็นมีออาชีพที่ควรจะปฏิบัติ สมกับชื่อไทยของหนังที่ว่า ‘อัพกูจอง หลอกมาอัพ จัดมาลวง’

เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ พัคจีอู (เล่นบทโดย จองคยองโฮ) หมอศัลยกรรมฝีมือยอดเยี่ยมแต่ดันเจอปัญหาหุ้นส่วนธุรกิจหักหลัง ต้องแบกรับความผิดแทน ทำให้ถูกระงับใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ไป 2 ปี แถมยังพ่วงหนี้ก้อนโตติดตัวมาด้วย แต่ความถือตัวในศักดิ์ศรีแล้วก็เลือกงาน ทำให้เขายังหาที่ลงตัวไม่ได้สักที ในขณะที่เจ้าหนี้นักเลงก็คอยตามติดทวงหนี้ให้อารมณ์เสียใจ

เขาได้บังเอิญเจอกับ คังแทกุก (รับบทโดย มาดงซอก) คนพื้นเพอัพกูจองที่ไม่รู้เรื่องที่มาจนดูราวกับขาดความน่านับถือ แทกุกเอาแต่ป้วนเปี้ยนไปทั่วอัพกูจอง ด้วยร่างล่ำบึ้กในเสื้อผ้าลำลองชิล ๆ สีฉูดฉาดสะดุดตา (สื่อความอิสระนอกกรอบ) วางมาดคุยโอ้อวดน้ำไหลไฟดับในเรื่องเส้นสายแล้วก็สกิลการเป็นตัวกลางเชื่อมธุรกิจให้เกิด เรียกว่าได้ความต้องการของ A และ B มาจิ๊กซอว์กันด้วยมือเปล่า

ไป ๆ มา ๆ คังแทกุก ก็สามารถใช้วาทศิลป์ร่วมกับกลเม็ดในการขจัดปัญหา ชักชวนให้ พัคจีอู วางใจร่วมทำธุรกิจกับเขาในฐานะหุ้นส่วน โดยมีนายทุนเป็นนักธุรกิจใหญ่คนจีนซึ่งบริหารงานผ่านอดีตนักเลงดังในพื้นที่ จีอูและแทกุกจึงเสมือนตัวต่อที่ต่อกันได้ลงตัวพอดีกับนายทุนเช่นกัน

ภาพยนตร์

สิ่งที่พวกเราจะได้เห็นตามมาก็คือ

ความไอเดียสุดบรรเจิดของแทกุก ‘เล็ก ๆ ไม่..ใหญ่ๆต้องแทกุกเท่านั้น’ เป็นที่มาของ ศูนย์ศัลยกรรมความงามครบวงจรในอาคาร 15 ชั้นที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ความตลกร้ายของการบิดตำราการตลาดให้ Weird
ปนฮา ไม่ว่าจะเป็นการปรับสกิลพนักงาน, การเจาะลูกค้านักท่องเที่ยวจีน, แพ็กเกจเหมา ๆ สุดคุ้มยกเครื่องทั้งตัว, การโปรโมตสร้างแบรนด์ผ่านสื่อแมส ชวนเชื่อด้วยเทคนิค Before VS After บลา..บลา…บลา… แน่นอนว่าทุ่มครบ 4P/7P ขนาดนี้ ธุรกิจก็เลยรุ่งเรืองสุดๆจนถึงทั้งคู่แฮปปี้ กวาดเงินแล้วก็โกยความโด่งดังสมใจแบบสุด ๆ

ภาพยนตร์ เดินเรื่องในจังหวะรวดเร็วมาก

แว๊บเดียวก็เข้าสู่องก์ที่สาม ข้อบกพร่องของธุรกิจที่เกิดจากความละโมบ ความเสี่ยงเกินตัว และก็ความไม่สุจริตในวิชาชีพ ที่สุมรวมกันเอาไว้ ในที่สุดก็ได้เวลาย้อนกลับมาเล่นงานตัวตั้งต้น ยิ่งอยู่ท่ามกลางเสือสิงห์กระทิงแรดในวงการ จึงยิ่งโหยกเหยกทั้งธุรกิจรวมทั้งมิตรภาพรหว่าง แทกุก กับ จีอู อย่างเกินคาด

ช่างเป็นเรื่องตลกร้ายที่สมน้ำสมเนื้อกับการหากินบนความงาม ‘พลาสติก’ ที่เล่นกับความปลอมรวมทั้งความลวง โดยเฉพาะด้านตัวผู้สร้างซึ่งไม่มีจรรยาบรรณ จนกระทั่งย้อนกลับมาทำให้ทั้งยังแทกุกรวมทั้งจีอูต้องพบเจอเรื่องลวงหลอกกลับด้วยเหมือนกัน วิกฤตนี้จะสาหัสขนาดไหน แล้วก็พวกเขาจะได้สติฟันฝ่ารอดมาได้ไหมอย่างไร ต้องติดตามกันดู

ก็ราวกับจะพอสรุปได้ว่า ในด้านการสร้างธุรกิจให้เกิด ถ้ามีไอเดียก็ต้องมีทุน มีคนเก่งก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพด้วย มีหุ้นส่วนดีเป็นมีชัยไปครึ่งหนึ่งละ แล้วก็ถ้าหากดูจบแบบอินตามในความสมจริง ก็เชิญชวนให้ตั้งคำถามขำ ๆ ว่า ‘ถ้าไม่ได้สองคู่หูที่บุกเบิกบ้าบิ่นนี้ ย่านอัพกูจองของเกาหลีจะพัฒนากลายเป็นขุมทองของ K-Beauty ที่โด่งดังน่าไว้ใจไป
ทั่วโลกเช่นทุกวันนี้ได้ไหม?’
นี่เป็นตลกร้ายที่เชื้อเชิญขำที่สุดของเรื่องแล้ว เนื่องจากส่วนตัวผู้เขียนว่ามุกขำขันในเรื่องมันออกจะฝืด ๆ จืด ๆ ไปหน่อยนะ

สำหรับนักแสดง นอกจากสองนักแสดงหลักอย่าง มาดงซอก รวมทั้ง จองคยองโฮ แล้ว ก็ยังเสริมทีมสมทบแล้วก็รับเชิญด้วย อีกทั้ง โอนารา, โอยอนซอ (สองโอนี้สวยกริ๊บมากทั้งสอง จนถึงอยากได้เบ้าไปผ่าตัดตามมั่ง ^^) ชเวบยองโม, กิลแฮยอน, ฮันโบรึม, จินซอนกยู แล้วก็ จองจีโซ